วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ว้า !







บ้านแม่ริดป่าแก่ เป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง 
อยู่ในเขตดอยแม่สวรรค์  อำเภอแม่สะเรียง  จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ชื่อหมู่บ้านบอกได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่า
คนกะเหรี่ยงอยู่กับป่าอย่างเข้าใจ  
พึ่งพาอาศัย แอบอิงอยู่กับธรรมชาติอย่างสมถะและรู้คุณ
เราจึงมักรู้สึกว่าหมู่บ้านกะเหรี่ยงร่มรื่น น่าอยู่มากกว่าที่อื่น ๆ

การเดินทางเข้าไปที่นั่นโหดใช่ย่อยในตอนนั้น  เพราะรถยังเข้าไม่ถึง
ต้องเดินกันอย่างเดียว

คณะเรามีกัน 5 คน เป็นหญิงล้วน
บางคนเพิ่งเคยเดินดอยเป็นครั้งแรก 

ครั้งนั้นเราได้พบพ่อเฒ่าคนหนึ่ง  จำชื่อไม่ได้เสียแล้ว
พ่อเฒ่านั่งสานกระบุงไม้ไผ่อยู่ที่ชานบ้าน





ที่เราเห็นว่าเป็นกระบุงนั้น  คือที่เก็บเสื้อผ้าของคนกะเหรี่ยง
เรียกว่า "โป่ว"  เป็นเครื่องสานทรงสูง
เอวคอดตรงปลาย  ข้างบนมีฝาครอบทรงกลม
เป็นงานสานละเอียดลออ  ซ้อนกันสองชั้น

ห้าสาวน้อย (ในยุคนั้น) ตื่นเต้นกันมาก
พ่อเฒ่ายังคุยให้ฟังอีกว่า  นี่ถ้ามีปีกแมงทับ ก็จะเอามาเสียบ
ประดับแทรกลงไปในรอยสาน  งามยิ่งกว่านี้อีก

พวกเราขอซื้อ "โป่ว"  เท่าที่พ่อเฒ่ามี
พ่อเฒ่าขายให้ในราคาใบละ  80 บาท
(ราคาขายที่เชียงใหม่ในขณะนั้น อยู่ที่ประมาณเจ็ดแปดร้อยบาท  
หากเป็นเดี๋ยวนี้  น่าจะแพงขึ้นอีกหลายเท่า  ยังมีหรือเปล่าก็ไม่รู้)

พ่อเฒ่าบ่นให้ฟังว่า 
"ในหมู่บ้านไม่มีใครทำโป่วได้อีกแล้ว  พ่อเฒ่าอายุ 80  อยู่อีกไม่เท่าไรก็ตาย.."

ฟังแล้วใจหาย...

ขากลับ เราจำเป็นต้องจ้างลูกหาบ เพราะลำพังตัวเองก็ยังจะเอาไม่รอด
นี่ยังมีโป่ว ใบเบ้อเริ่มเทิ่มอีกตั้ง 4 ใบ

ลูกหาบสองคน ทำไม้คานหาบโป่วคนละสองใบ
นำทางพาห้าสาวร่อนลงดอย

เดินบ้าง พักบ้าง เพราะหนทางทุรกันดาร
บางช่วงขึ้น บางช่วงลง เหนื่อยหอบแทบขาดใจ

ป่าแม่ฮ่องสอนนั้นสวยนัก
สองข้างทางเดินเต็มไปด้วยดอกหญ้าเล็ก ๆ  ทั้งสวยและแปลก
เป็นหญ้าพันธุ์แกร่ง  บางต้นลักษณะคล้าย ๆ เฟิร์น  หรือไม่ก็พวกย่านลิเภา
มารู้ภายหลังจากครูในหมู่บ้านว่า ชื่อหญ้างอแง  จิ้มน้ำพริกกินได้ด้วย
ชื่อยังกับเด็กตัวเล็ก ๆ ขี้ร้องไห้

ฉันหลงใหลดอกหญ้าเล็ก ๆ จนอดใจไว้ไม่อยู่
ต้องหยุดเก็บเป็นระยะ ๆ 
เต็มมือเมื่อไรก็โยนลงไปในโป่ว  ให้ลูกหาบหาบต่อไป
เก็บอยู่นั่นแล้ว..  
พวกลูกหาบจะรำคาญบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

ระหว่างหยุดพักกลางทาง
มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง เดินสวนมาจากข้างล่าง จะกลับขึ้นไปหมู่บ้าน
พวกเขาส่งเสียงทักทายกันโขมงโฉงเฉง
เดาจากท่าทาง.. คงอยากรู้เต็มแก่ว่ามีอะไรอยู่ในโป่ว
ถึงกับต้องจ้างต้องหาบกันลงมา

คนหนึ่งอดใจไว้ไม่อยู่ พรวดพราดเข้าไปเปิดฝา
แล้วก็ทำหน้าแปลกใจระคนผิดหวัง 

"ว้า.."

มองเห็นแต่หญ้าแห้ง ๆ รก ๆ เต็มไปหมด
ไม่มีของมีค่า มีราคา
อะไรสักอย่าง..

คนเมืองนี่แปลกจริง ๆ



หมายเหตุ...หลังจากกลับมาในครั้งนั้น  สามปีต่อมาพ่อเฒ่าก็สิ้นบุญ
และไม่มีใครสืบทอดงานสานโป่วอันงดงามของพ่อเฒ่าอีกเลย








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น