ยายของลูกเป็นคนความจำดีเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้า
ไม่ว่าจะซื้อของอะไรมาจากไหน และนานแค่ไหน ยายจำราคาได้หมด
ตรงข้ามกับฉัน..
เวลาคุยกัน บางครั้งจึงมีปัญหาบ้าง
"ซื้อของไม่รู้จักจำราคา ถามอะไรก็จำไม่ได้สักอย่าง"
"ไม่รู้ซีแม่ มันไม่อยากจำมั้ง ไม่รู้จะจำไปทำไม" แก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ แบบนี้
แล้วก็ไม่รู้ว่าคนแก่บ้านอื่นเหมือนคนแก่บ้านนี้หรือเปล่า
เวลาที่เราซื้อของที่มีราคาหน่อยเข้าบ้าน ก็มักจะต้องผิดศีลข้อ 4 อยู่เสมอ
บอกราคาหารสอง หรือกว่านั้น - เพื่อให้คนแก่สบายใจ
พักที่ฉันบ้าซื้อต้นไม้ ไม้บางต้นราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ก็เลือกซื้อเท่าที่พอสมควรกับฐานะ
ต้นไหนเป็นพันเป็นหมื่นก็ไปไกล ๆ ก่อน
วันหนึ่ง ฉันได้ต้นอโศกสปันมาจากสวนคุณป้าขายต้นไม้ คนคุ้นเคย
เป็นไม้หายากพอควร ที่ได้มาเป็นกิ่งตอน ยังอยู่ในถุงดำ
ซื้อมาในราคา 300 บาท
รู้แล้วแน่ ๆ ว่ายายต้องถาม
ฉันไม่อยากพูดโกหก จึงยกนิ้วชูขึ้น 3 นิ้ว
"30 บาท" ยายพยักหน้าหงึกหงักแบบรับรู้
ฉันไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ทำหูทวนลม
แกล้งหยิบโน่นจับนี่ รอดตัวไปอีกคราว
ของกินบางอย่างก็เหมือนกัน
อยากให้คนแก่กินของดี ๆ อร่อยลิ้น จึงซื้อมาให้
ถ้าบอกราคากันตรง ๆ นอกจากอาจจะถูกดุด่าแล้ว
แกอาจจะพานไม่ยอมกินไปอีกด้วย
วันหนึ่ง ขากลับจากเชียงใหม่
สองข้างทางถนนหลวงมีแม่ค้าตั้งแผงขายผลไม้ตามฤดูกาล
เราแวะซื้อเมลอน ที่นิยมเรียกว่าแคนตาลูป
กะฝากทั้งย่าและยาย
"หวานเจี๊ยบเลยจ้ะ สามลูกร้อย" แม่ค้าโฆษณาสรรพคุณ
แคนตาลูป-แตงญี่ปุ่น ที่บางพันธุ์ มีกลิ่นและรสละม้ายแตงไทยของเรา
บางพันธุ์ที่อร่อยมาก ๆ ลูกละเป็นร้อยก็มี
ผ่านบ้านย่าก่อนถึงบ้านเรา จึงแวะเอาแตงญี่ปุ่นไปฝาก
"ลูกเท่าไรนี่" ย่าถาม มาอีกคนแล้ว แนวเดียวกันเลย
คนถูกถามนิ่งไปอึดใจ
"3 บาท"
คราวนี้ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนผิดศีล แต่เป็นลูกชายของย่า
"แพงนะ ลูกแค่นี้ตั้งสามบาท" ย่าบ่นงึมงำ
เพราะแตงไทยบ้านเราลูกเบ้อเร่อ ก็ยังแค่ 2-3 บาท
แถวบ้านแจกกันฟรี ๆ ก็มี กินทิ้งกินขว้างก็ยังไม่หมดลูก
แตงญี่ปุ่นลูกกระจี๊ดเดียว ตั้ง 3 บาท
"ไปแล้วนะแม่" ลูกชายรีบบอกลาซะดื้อ ๆ
นี่ยังไม่รู้ว่าเมื่อถึงบ้าน ยายที่รออยู่จะพูดว่ายังไงอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น