วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

3 บาท






ยายของลูกเป็นคนความจำดีเยี่ยม  โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้า
ไม่ว่าจะซื้อของอะไรมาจากไหน  และนานแค่ไหน  ยายจำราคาได้หมด

ตรงข้ามกับฉัน..

เวลาคุยกัน บางครั้งจึงมีปัญหาบ้าง
"ซื้อของไม่รู้จักจำราคา  ถามอะไรก็จำไม่ได้สักอย่าง"
"ไม่รู้ซีแม่ มันไม่อยากจำมั้ง  ไม่รู้จะจำไปทำไม"   แก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ แบบนี้

แล้วก็ไม่รู้ว่าคนแก่บ้านอื่นเหมือนคนแก่บ้านนี้หรือเปล่า
เวลาที่เราซื้อของที่มีราคาหน่อยเข้าบ้าน  ก็มักจะต้องผิดศีลข้อ 4 อยู่เสมอ
บอกราคาหารสอง  หรือกว่านั้น - เพื่อให้คนแก่สบายใจ

พักที่ฉันบ้าซื้อต้นไม้  ไม้บางต้นราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ก็เลือกซื้อเท่าที่พอสมควรกับฐานะ
ต้นไหนเป็นพันเป็นหมื่นก็ไปไกล ๆ ก่อน

วันหนึ่ง ฉันได้ต้นอโศกสปันมาจากสวนคุณป้าขายต้นไม้  คนคุ้นเคย
เป็นไม้หายากพอควร  ที่ได้มาเป็นกิ่งตอน ยังอยู่ในถุงดำ
ซื้อมาในราคา 300 บาท

รู้แล้วแน่ ๆ ว่ายายต้องถาม
ฉันไม่อยากพูดโกหก  จึงยกนิ้วชูขึ้น 3 นิ้ว

"30 บาท"  ยายพยักหน้าหงึกหงักแบบรับรู้

ฉันไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ  ทำหูทวนลม
แกล้งหยิบโน่นจับนี่  รอดตัวไปอีกคราว

ของกินบางอย่างก็เหมือนกัน
อยากให้คนแก่กินของดี ๆ อร่อยลิ้น จึงซื้อมาให้
ถ้าบอกราคากันตรง ๆ นอกจากอาจจะถูกดุด่าแล้ว
แกอาจจะพานไม่ยอมกินไปอีกด้วย

วันหนึ่ง  ขากลับจากเชียงใหม่
สองข้างทางถนนหลวงมีแม่ค้าตั้งแผงขายผลไม้ตามฤดูกาล

เราแวะซื้อเมลอน ที่นิยมเรียกว่าแคนตาลูป
กะฝากทั้งย่าและยาย

"หวานเจี๊ยบเลยจ้ะ  สามลูกร้อย"  แม่ค้าโฆษณาสรรพคุณ
แคนตาลูป-แตงญี่ปุ่น  ที่บางพันธุ์ มีกลิ่นและรสละม้ายแตงไทยของเรา
บางพันธุ์ที่อร่อยมาก ๆ ลูกละเป็นร้อยก็มี

ผ่านบ้านย่าก่อนถึงบ้านเรา  จึงแวะเอาแตงญี่ปุ่นไปฝาก
"ลูกเท่าไรนี่"   ย่าถาม  มาอีกคนแล้ว แนวเดียวกันเลย
คนถูกถามนิ่งไปอึดใจ

"3 บาท"
คราวนี้ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนผิดศีล  แต่เป็นลูกชายของย่า

"แพงนะ   ลูกแค่นี้ตั้งสามบาท"   ย่าบ่นงึมงำ
เพราะแตงไทยบ้านเราลูกเบ้อเร่อ  ก็ยังแค่ 2-3 บาท
แถวบ้านแจกกันฟรี ๆ ก็มี   กินทิ้งกินขว้างก็ยังไม่หมดลูก
แตงญี่ปุ่นลูกกระจี๊ดเดียว ตั้ง 3 บาท

"ไปแล้วนะแม่"  ลูกชายรีบบอกลาซะดื้อ ๆ

นี่ยังไม่รู้ว่าเมื่อถึงบ้าน ยายที่รออยู่จะพูดว่ายังไงอีก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น