วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แม่บ้านชานเมือง (1)





ฉันชอบทำของใช้เอง

ไม่ได้มีฝีมือเลอเลิศ  แต่อยากทำ
ไม่ใช่คนขยันขันแข็ง  แต่ก็ไม่ถึงกับขี้เกียจ

ถ้ามีใจ"อยาก"ขึ้นมาเมื่อไร ก็จะทำ

ทำแล้วก็ชอบทำให้เสร็จ  จนบางครั้งแอบเผลอชุ่ย
เพราะความอยากให้เสร็จเร็วๆนี่แหละ
จึงต้องคอยเตือนสติ กำราบตัวเอง ขัดเกลาตัวเอง
ถูลู่ถูกังกับตัวเองมาหลายงาน

ตอนที่ลูกยังเล็ก เป็นเด็กนักเรียนประถม ถึงมัธยมต้น
ฉันเป็นคนปักชื่อบนเสื้อนักเรียนทุกตัวของลูก

ลูกจะอายเพื่อนบ้างหรือเปล่าไม่รู้
ที่ชื่อตัวเองปักด้วยฝีมือโย้เย้ของแม่
ในขณะที่ของเพื่อนเกือบทั้งหมด
ปักด้วยเครื่องปัก สวยงาม เรียบกริบ

สมัยที่ฉันเป็นเด็กนักเรียน เราปักกันเองทั้งนั้น
เครื่องปักเพิ่งมามีในยุคหลังๆนี่เอง

และร้านรับปักเสื้อไม่เคยได้กินเงินแม่อย่างฉัน

ของใช้ในบ้านหลายอย่างก็ชอบทำเอง
เช่นพรมเช็ดเท้า ที่ทำจากเศษผ้า
ผ้ารองจาน  ม่านหน้าต่าง ฯ

เคยฝันว่าจะเก่งขนาดตัดเสื้อผ้าให้ลูกใส่ได้
ส่วนหนึ่งเพราะอยากประหยัด 
เวลาเปิดเทอม ซื้อเสื้อผ้าให้ลูกที ต้องจ่ายหลายตังค์

จึงลงทุนไปเรียนตัดเสื้อ
ไม่มีปัญญาไปเรียนที่แพงๆ จึงไปสมัครเรียนของ กศน.
กศน.คือการศึกษานอกโรงเรียน
หน่วยงานนี้ยังอยู่หรือยุบไปแล้วไม่รู้

เรียนในวัด ไม่ไกลจากบ้านนัก
ถ้าจำไม่ผิด  ค่าเรียนแสนถูก ตกชั่วโมงละ 1 บาท
เรียนอยู่ประมาณ 2-3 คอร์ส  คอร์สละประมาณ 1 เดือน
เรียนจนสร้างแพทเทิร์นได้

ช่วงที่อยู่ในมู้ดการเรียน อาจหาญถึงขนาดตัดชุดนักเรียนให้ลูกได้

ตัดชุดยุวกาชาดให้ลูกสาว
ตัดชุดลูกเสือและกางเกงนักเรียนให้ลูกชายได้หลายตัว

แต่พอเลิกเรียน และลูกโต แยกย้ายกันไปเรียนที่อื่น
ความรู้ของแม่ก็เข้าฝัก
ส่งคืนอาจารย์หมดเกลี้ยง
อุปกรณ์บางอย่างกลายเป็นส่วนเกินของบ้าน  เช่นจักรโพ้ง
ไม่ได้ใช้ ขายคืนก็ไม่ได้ อยากจะยกให้ใครที่ควรให้แบบฟรีๆด้วยซ้ำ
แต่ก็ยังหาตัวคนอยากได้ไม่เจอ

เลิกตัดเสื้อ  เพราะเสื้อตัดยาก มีรายละเอียดเยอะ
ทั้งการเข้าปก โค้งแขน  เข้าแขน

ยังคงตัดกระโปรงทรงเอ ที่ใส่ประจำ
มีแพทเทิร์นอยู่แล้ว  ใช้แพทเทิร์นเดียวจนกระดาษเปื่อย

และไปๆมาๆก็เลิกตัดกระโปรง เพราะตัดไว้เยอะแล้ว
ใส่ไปได้ตลอดชีวิต

ตอนนี้เหลือตัดให้ตัวเองเพียงอย่างเดียว คือเสื้อคอกลม แขนกุด
เรียกว่าเสื้อคุณป้า
เป็นเสื้อประจำตำแหน่ง ที่มีแพทเทิร์นตายตัวอีกเหมือนกัน
เข้ากับอากาศร้อนที่ทวีขึ้นทุกปี  จนแทบจะใส่เสื้อมีแขนไม่ได้

ผ้าที่ตัดก็มักเอามาจากเสื้อผ้าเก่าๆ ที่เก็บๆไว้
ตัวไหนเคยชอบ เคยรัก แต่ไม่ใส่แล้วก็จะเลาะออกมา ทำเป็นผ้าต่อ

ดังนั้นเสื้อที่ฉันใส่บางตัว อาจจะมีลวดลายผ้าต่อใกล้เคียงกับพรมเช็ดเท้าที่บ้าน

ส่วนคุณพ่อบ้านก็มีชุดประจำชาติเช่นกัน
นอกจากเสื้อม่อฮ่อม กางเกงม่อฮ่อม ที่ซื้อจากร้านเจ้าประจำแล้ว
เดิมเคยซื้อเสื้อผ้าฝ้ายคอกลม แขนสั้นให้เขา  จากสวนลุมไนท์บาซาร์

มีร้านประจำที่ถ้าได้ไปก็จะซื้อครั้งละครึ่งโหล 
เขาจะลดราคาให้เป็นพิเศษ

ตอนหลังแทบไม่ได้ลงกรุงเทพฯ  จึงคิดตัดเอง
ไม่ยากอะไร  แค่ก็อปปี้แพทเทิร์น แล้วหาซื้อผ้าที่ชอบ
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผ้าฝ้าย ที่คิดว่าใส่สบาย
ประหยัดเงินไปได้อีกเยอะ

คุณพ่อบ้านใช้เสื้อผ้าเปลือง เพราะใช้ชีวิตกลางแจ้งเป็นส่วนใหญ่
ทำสวน ฟันไม้ รดน้ำต้นไม้  เสื้อมักเปื่อยขาดที่คอ เพราะเหงื่อเค็ม
เสื้อขาวติดยางกล้วยซักไม่ออกหลายตัว

ถ้าฉันจำเป็นต้องเดินทางไปไหนหลายวัน
นอกจากต้องเตรียมเสบียงอาหารไว้ให้แล้ว
ก็มักจะต้องตัดเสื้อเพิ่มไว้ให้เขาจนครบวัน

เพราะเขาจะไม่ยอมซักผ้า (แม้จะมีเครื่อง)

เคยจากไปครึ่งเดือน
กลับมาถึงบ้านถึงกับตะลึงงัน

เสื้อผ้าพ่อกองเป็นภูเขา 1 ลูกใหญ่
ลูกชายปิดเทอมกลับมาอยู่บ้าน กองเป็นภูเขาอีกลูก  คนละมุมกัน

ทั้งหมดรอแม่มาสะสาง !!

โชคดีที่ฉันเป็นคนชอบซักผ้า
ช่วงที่เครื่องซักผ้าเสียก็ซักมือได้ไม่มีปัญหา
ส่วนหนึ่งอาจเพราะเป็นคนขี้ร้อน ชอบเล่นน้ำ
แต่การรีดผ้านี่ ไปไกลๆเลย  เกลียดมาก
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ครอบครัวเรานิยมใส่เสื้อผ้ายับ  5555

นิสัยนี้ยังติดไปถึงลูกสาว ที่แม้จะจากไปเรียน และทำงานแล้ว
เธอก็ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าเรียบเหมือนกัน

เตารีดที่บ้านหงอยเหงามาเป็นปี นับแต่ลูกๆไม่อยู่
ไม่ต้องรีดชุดนักเรียนให้พวกเขาอีกต่อไป
ประหยัดค่าไฟไปไม่ใช่น้อย





วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โอกาส





ของขวัญปีใหม่จากลูกชาย
สงสัยอยากให้แม่ผอม..

"แม่อ่านนะ"
เขากำชับ ก่อนกลับไป กทม.

สองเดือนแล้วแม่ยังไม่ได้อ่าน  เพราะติดโน่นนี่นั่น

วันก่อนขนขยะในบ้านไปขายยังโรงรับซื้อของเก่า
ที่ตั้งอยู่ห่างไกลในดงฝุ่น
ทั้งขวดแก้ว พลาสติก กระป๋อง ที่เก็บรวบรวมไว้เป็นปี
แล้วก็ยังมีหนังสือ..

หนังสือที่เหลือรอดจากการแทะเล็มของฝูงปลวก
จะยกให้ใครก็ดูไม่ดี เพราะรูปเล่มที่ถูกแทะจนเว้าแหว่ง
จึงต้องชั่งกิโลขาย ให้เขาเอาไปย่อยใหม่

เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชาย
หน้าตาเนื้อตัวมอมแมม รี่เข้ามาช่วยยกของลงจากท้ายกระบะ

เมื่อเขาเห็นกองหนังสือที่ฉันมัดเชือกฟางไว้เป็นมัดๆ
ประกายตา ท่าทางของเขาดูตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เข้ามาหยิบ มาดึงหนังสือบางเล่มไปพลิกดู
และคำพูดเพียงประโยคเดียวของเด็กหนุ่ม ทำให้ฉันอึ้ง

"หนังสือดีๆทั้งนั้นเลย"

หญิงสาวอีกคน อายุมากกว่าเด็กหนุ่มขึ้นมาหน่อย เดินมาสมทบ
เธอพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้นว่า
"แฮรี่ พอตเตอร์ ก็มี"

ฉันรู้สึกสะท้อนใจ  สัมผัสได้ในทันใดว่าพวกเขารู้คุณค่าของหนังสือ
ส่วนจะมีโอกาสเข้าถึงแค่ไหน ยากที่จะรู้

ไม่มีหนังสือให้คนที่อยากอ่าน  ไม่มีที่  ไม่มีเงิน  ไม่มีงบ
ทั้งที่มีหนังสือพิมพ์ออกมาขายมากมาย ล้นเหลือเฟือฟายสำหรับคนมีเงิน
มีงานหนังสือปีละหลายครั้ง  แต่ต้องมีเงินจึงจะได้อ่าน

คำถามผุดขึ้นมาในใจมากมาย
ล้วนเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ

คิดถึงลูกชาย 
ที่พอมีเงินเหลือซื้อหนังสือเป็นของขวัญปีใหม่ให้แม่
แต่ลูกชายของแม่อีกคน   หน้าตาเนื้อตัวมอมแมมอยู่กลางกองขยะ
คงไม่มีโอกาสเช่นนี้..