วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556

ดอกไม้ของแม่



ปีนี้แม่อายุย่างเข้า  83  เป็นคนแก่ที่หมอเคยบอกว่าสุขภาพดีกว่าคนแก่วัยเดียวกัน  แม่กินมังสวิรัติมานานกว่า 30 ปี  เป็นคนมีวินัยในตัวเอง เคร่งครัดในเรื่องการกินการอยู่  แม่จึงดูแข็งแรงที่สุดในบรรดาป้าน้า พี่น้องที่ยังเหลือกันอยู่เพียงสองสามคน

แม่เล่าว่าตอนที่ฉันเป็นเด็กเล็ก ๆ ฉันติดแม่มาก  แม่เคยป่วยเป็นโรคหัวใจ  ต้องนอนรักษาตัวนานนับเดือน  ฉันซึ่งอายุราว 3-4 ขวบ  น่าจะกำลังซน  กลับไม่ยอมไปเที่ยวเล่นที่ไหน  ได้แต่นอนอยู่ข้าง ๆ แม่  แม้ญาติพี่น้องจะพากันหลอกล่อด้วยขนม  หรือบอกว่าจะพาไปเที่ยวที่โน่นที่นี่  ผิดกับน้องชายที่ฉลาดกว่า จึงได้กินขนม ได้ไปเที่ยวอยู่บ่อย ๆ

พ้นช่วงวัยเด็กเข้าสู่วัยรุ่น พวกเราก็จะเลิกติดแม่  ต่างคนต่างมีโลกส่วนตัวของตัวเอง และไม่สนใจโลกของคนอื่น รวมทั้งแม่ของเราด้วย  เวลาในช่วงนี้ยาวนานไปจนถึงช่วงกลางคน ซึ่งเราเริ่มมีครอบครัว  มีความวุ่นวายอยู่กับลูกเต้าและการงานของตัวเอง  จนเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะเหลียวหลังแลหน้าไปที่ไหน

กลับมาคิดถึงแม่อีกครั้งก็เมื่อลูกเริ่มโตจนไม่ติดเรา  แม่เริ่มแก่และเราก็ล่วงเข้ากลางคนตอนปลายเข้าไปแล้ว  ชีวิตคนสองรุ่นจึงเริ่มหวนกลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง

บุญของเราที่แม่ยังอยู่ ยังแข็งแรง สุขภาพดี สติสัมปชัญญะสมบูรณ์  และที่สำคัญแม่เป็นคนแก่อารมณ์ดี ที่ใครก็อยากให้ไปอยู่ด้วย  ผิดกับคนแก่ของบางบ้านที่เคยได้ยินได้ฟังมา จนลูกหลานไม่อยากให้อยู่ด้วย ทั้งที่อาจเริ่มต้นด้วยความรู้สึกดี ๆ มาก่อน

แม่เห็นฉันชอบทำการ์ดดอกไม้แห้ง  แม่จึงอาสามาช่วยเก็บช่วยอัดดอกไม้   เริ่มจากดอกไม้ธรรมดา ๆพื้น ๆ ไม่กี่ดอก ไม่กี่ชนิด อย่างดอกเข็ม ดอกกุหลาบ  กลายมาเป็นพันเป็นหมื่นดอก หลากหลายนานาพันธุ์  เวลาของคนแก่นั้นยาวนานกว่าใคร  ถ้าไม่มีอะไรให้ทำก็จะมีแต่ความเหี่ยวเฉา  แม่สนุกกับงานนี้  มันเป็นงานที่เข้ากับนิสัยของแม่  ที่เป็นคนละเอียดลออ ถี่ถ้วน  ทำอะไรต้องทำให้ดี เป็นระเบียบเรียบร้อย  แม้แม่จะเคยบอกว่าสมัยสาว ๆ แม่เป็นคนใจร้อน โมโหร้าย - เราก็รู้ว่าแม่เป็นคนขี้โมโห  แต่พอแก่ตัวก็ผ่อนคลายลงตามวัย  งานอัดดอกไม้น่าจะมีส่วนช่วยย้อมจิตใจให้เยือกเย็นลง  แต่ก็ยังมีบ้างบางวัน ที่แม่หลุดอาการโมโหร้ายออกมาให้เห็น  เมื่อทำงานบางอย่างผิดพลาด หรือบางวันที่อ่อนล้าเกินไป

เอาเป็นว่าตอนนี้แม่มีงานอัดดอกไม้เป็นหลักในชีวิตแล้ว  ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน  บ้านใคร  สายตาของแม่จะมองหาแต่ดอกไม้ที่จะเอามาอัด

จากดอกไม้พื้น ๆ  แม่ก็เริ่มแสวงหาความงามแบบแปลก ๆ ใหม่ ๆ จากดอกไม้ที่คนอื่น ๆ มองข้าม เช่นดอกหญ้าทั้งหลาย  บางดอกสวยงามแต่เล็กมาก  ดอกย่อยเล็ก ๆ ของพวงดอกอูน  อโศก  บุหงาส่าหรี  ปีบ  มะเขือพวง  ยอดอ่อนฟ้าทะลายโจร  ดอกจิ๋วกลีบบางของโมก  หรือแม้แต่ดอกใหญ่ ๆ อย่างชวนชม บานบุรี  กล้วยไม้  จำปี  ดอกจิก  แม่ก็จับมาอัดไว้หมด  ถือเป็นงานทดลองที่บางครั้งก็ให้ความชื่นใจเกินคาด  แม่ตื่นเต้นกับผลงานการอัดของตัวเอง  ทั้งสีสันและรูปทรง  แม่มีข้อมูลเรื่องฤดูกาล  ลมฟ้าอากาศ ที่มีผลต่อการอัดดอกไม้ของแม่  จนสรุปได้ว่าไม่ควรอัดดอกไม้ในหน้าฝน  หน้าหนาวเป็นฤดูที่ดีที่สุด เพราะอากาศแห้ง สีจะอยู่คงทน

ดอกไม้ที่อัดแล้วแม่จะเก็บรวบรวมใส่ซองกระดาษไว้จนมากพอ ก็จะส่งไปรษณีย์มาให้ฉัน  ครั้งหนึ่งฉันเคยบอกแม่ว่าไม่ต้องอัดแล้ว  เพราะลูกค้าที่เคยสั่งงานประเภทนี้หยุดสั่งของจากเราแล้ว  แม่มีอาการเคว้งคว้างขึ้นมาทันใด  น้องสาวผู้ชาญฉลาดมองเห็นเหตุการณ์จึงรีบพูดขึ้นว่า  ไม่เป็นไรนี่  ลูกค้ารายนี้ไม่สั่ง ก็อาจจะมีรายอื่นมาสั่ง  ถ้ารอให้มีคนสั่งแล้วค่อยทำก็จะไม่ทันการณ์  เราทำเก็บไว้ก็ไม่เสียหาย  เหตุผลของน้องสาวทำให้แม่ใจชื้น หน้าชื่น และกลับมาทำหน้าที่อัดดอกไม้ให้ลูกสาวต่อไป

สมัยที่ยังแข็งแรงกว่านี้  ช่วงสาย ๆ แม่ชอบไปเดินท่อม ๆ อยู่ในสวน  เลือกตัดดอกไม้ช่อนั้น ช่อนี้  ใช้วิจารณญานของแม่ ที่เกิดจากการสั่งสมสายตาชมชื่นดอกไม้ในสวนมานานวัน

แม่บอกว่าอัญชันต้องไปเก็บแต่เช้าตรู่ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น  ไม่งั้นจะไม่ได้กลีบเล็ก ๆ ที่เหมาะกับการทำการ์ด  ถ้าสายดอกจะบาน กลีบจะใหญ่เกินไป ไม่สวย  ชุดไหนที่แม่อัดได้สวย แม่จะเขียนบอกไว้หน้าซองด้วยลายมือตัวโต ๆ ที่พวกเราคุ้นเคย   เช่นกัน ชุดไหนไม่สวยแม่ก็จะเขียนบอก อาจมีเหตุผลบอกไว้ เหตุผลของบางซองเราเห็นแล้วก็ต้องอมยิ้ม  เช่นบอกว่า " อาม่าเป็นคนอัด  อัดไม่เป็นเลยไม่สวย"

อาม่าเป็นคนแก่ข้างบ้าน อายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่  อาม่าอยู่บ้านกับเด็กรับใช้ชาวพม่าทั้งวัน  มีเวลาว่างมากมาย  เมื่อเห็นงานอดิเรกของแม่ อาม่าจึงสนใจมาช่วยทำ  แรก ๆ ดูท่าแม่ไม่ค่อยอยากให้อาม่ามาช่วย  จะรู้สึกอย่างไรไม่รู้  ความที่แม่เป็นคนเนี้ยบ แม่จึงมักรู้สึกว่าคนอื่นทำได้ไม่ดีเท่าตัวเอง  นี่อาจจะเป็นเหตุผลหลักที่แม่ไม่ค่อยอยากให้อาม่าช่วย  อาม่าเก็บดอกไม้ในบ้านของแกมาอัดให้อยู่ระยะหนึ่งคือเข็มปัตตาเวีย และเข็มเล็ก ๆ ที่ปลูกอยู่ริมรั้วบ้าน  แต่อาม่าคงไม่รู้สึกสนุกกับงานนี้เท่าไร  กิจกรรมนี้จึงไม่ยาวนานเท่าแม่ของเรา




งานอัดดอกไม้เป็นงานที่ฉันหน่ายที่จะทำ  ทั้งที่น่าจะเป็นงานที่มีความสุข  แต่เพราะเป็นงานที่ต้องอาศัยเวลา  อาศัยความใจเย็น  ความอดทน  และเป็นงานละเอียด  ในขณะที่รู้สึกว่า่ตัวเองมีภาระเร่งร้อน รอทำอยู่มากมาย  หากว่าทำเป็นงานอดิเรกนาน ๆ ครั้งก็พอไหว  แต่ถ้ากลายเป็นงานที่ต้องทำในปริมาณมาก  ทำซ้ ำ ๆ  ความสุขก็จะพากันวิ่งหนี  เหลือแต่ความรีบเร่งและกังวล  จนกระทั่งกลายเป็นความหน่าย และความชุ่ยเข้าจนได้

เมื่อแม่มารับหน้าที่นี้แทน และทำได้ดีกว่าฉันทำเป็นร้อยเท่า  งานการ์ดของฉันจึงยังคงอยู่ต่อไป

แม่ทำงานประณีตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกเก็บดอกไม้  ตัดดอกไม้ออกจากขั้วทีละดอก  ปลิดกลีบทีละกลีบ  เลือกคัดใบขนาดที่เหมาะสม  แยกประเภทดอก กลีบ ใบ เกสร  แรก ๆ แม่ใช้กระดาษทิชชูวางรองก่อนด้วยซ้ำ  เพราะกระดาษทิชชูเป็นตัวช่วยซับน้ำได้อย่างดี  เมื่อเรียงดอกไม้จนเต็มแผ่นก็ใช้กระดาษทิชชูวางทับบนดอกไม้อีกชั้นหนึ่ง  แต่ต่อมาแม่ก็เลิกใช้กระดาษทิชชู บอกว่าสิ้นเปลืองเกินไป  หนังสือที่ใช้อัดก็คือบรรดานิตยสารข่าวการเมืองรายสัปดาห์ในบ้าน  ดอกไม้ของแม่เรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ ซ้อนกันหลายชั้นในแต่ละเล่ม  ไม่เหมือนเวลาที่ฉันทำเอง  แรก ๆ ก็ยังเป็นระเบียบเรียบร้อยดีอยู่หรอก  ต่อมาเมื่อยุ่งมาก ๆ เข้า  ดอกไม้จะถูกจับสาดเข้าไปเป็นกำ  แล้วก็เกลี่ย ๆ ให้ทั่วแผ่น เป็นอันเสร็จพิธี  แต่สำหรับแม่  จะไม่มีภาพอย่างนี้ให้เห็นเด็ดขาด  แม่จะนั่งเรียงทีละกลีบ ทีละใบเป็นแถวจนเต็มแผ่น  แผ่นแล้วแผ่นเล่า  บางวันจนเวลาเลยล่วงเพราะเก็บดอกไม้มามากเกิน และเสียดายหากจะทิ้ง  รุ่งขึ้นแม่ก็จะบ่นปวดหลังปวดเอว  บางครั้งลูกบังเกิดเกล้าทั้งสองสามคนก็จะพากันดุแม่ว่าทำอะไรไม่ประมาณตน

กองดอกไม้อัดของแม่ตั้งสูงขึ้น ๆ  ดูไม่สมดุลกับการเอาไปใช้  ทั้งที่บางช่วงเมื่องานเข้า ฉันต้องใช้ดอกไม้เป็นจำนวนมากนับพัน ๆ ดอก  แต่กองดอกไม้อัดของแม่ก็ยังดูไม่พร่อง  มีแต่จะสูงขึ้นไปด้วยซ้ำ  เมื่อจะรวบรวมส่งให้ฉัน แม่ก็จะต้องนั่งเปิดหน้าที่อัดไว้ทีละหน้า และใช้มีดประจำตัวเล่มเล็ก ๆ บาง ๆ ของแม่แซะกลีบดอกไม้ออกจากกระดาษ แยกใส่ซองตามประเภทของดอกไม้  ขั้นตอนนี้กินเวลาเอาเรื่องทีเดียว

นานวันเข้า ซองที่แม่ส่งมาให้ ดอกที่อัดมาก่อนนาน ๆ เริ่มหมดสภาพ  ดอกคูนและขี้เหล็กสีเหลือง หรือคอร์เดียสีส้ม เป็นประเภทที่ไปก่อนเขาเพื่อน  แมลงตัวเล็ก ๆ เข้าไปกัดกินกลีบดอกจนพรุน ใช้การไม่ได้  พุดน้ำบุษย์สีเหลืองส้มที่แม่ชอบอัดเพราะมีเยอะมาก แต่ก็เป็นดอกที่ราชอบขึ้นมากที่สุดเพราะน้ำเยอะ  จึงกลายเป็นเสียแรงเปล่า  เข็มบางประเภท  กุหลาบบางรุ่น  สีสันสดใสเมื่อแรกอัด  นานไปเหลือแต่ความซีดโทรม ผุกร่อน  จึงจำเป็นต้องทิ้ง




กว่า่จะรู้ซึ้งว่าแรงงานของแม่มหาศาลเพียงใด  ก็ตอนที่จำต้องขนดอกไม้หมดสภาพเหล่านี้ไปทิ้งด้วยความใจหาย  ซึ่งต้องทำตอนที่แม่ไม่อยู่  ไม่รู้สิ  แม้แม่จะเคยบอกว่า  อันไหนใช้ไม่ได้ก็ทิ้งไปซะ  แต่แม่จะต้องนึกไม่ถึงว่ามันจะมากมายขนาดนี้   สุสานดอกไม้ที่เกิดจากความเพียรพยายามของแม่ทำร้ายจิตใจ  จนหวั่นว่าจะทำร้ายจิตใจแม่ด้วย  แม่จึงไม่เคยรู้ว่าฉันทำอย่างนี้มาหลายรอบแล้ว



วันนี้..แม่ในวัย 83  ไม่อาจเดินท่อม ๆ เข้าไปในสวนได้เหมือนเมื่อก่อน  กำลังวังชาของแม่ถดถอย  ได้แต่เดินเล่นใกล้ ๆ รอบบ้าน  แม่อัดดอกไม้ได้น้อยลงเพราะไม่มีแรงเดินไปเก็บ  แม่ทำงานได้ช้าลง  แต่สายตาของแม่ก็ยังมองเห็นความงามของดอกไม้ก่อนอย่างอื่นเสมอ

"นั่นดอกอะไร  สีม่วง ๆ "  แม่ชี้มือไปทางป่ารกด้านตะวันออกของบ้าน  ดอกไม้สีม่วงดอกหนึ่งโผล่หน้าออกมาจากพุ่มหนาทึบ  ใจกลางดอกเป็นสีเหลืองเข้ม

"ช้องนาง"  ฉันบอก  แม่พยักหน้ารับรู้  ถ้าเป็นเมื่อก่อนแม่ก็คงจะเดินออกไปเด็ดมาอัดเลยโดยไม่ต้องถาม

วันนี้...กองดอกไม้ของฉันเริ่มหยุดนิ่งและต่ำเตี้ยลง เพราะไม่มีใครอัดเพิ่ม

ดอกไม้ในสวนคงชะเง้อคอรอใครบางคน....



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น