วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

มามัลละปุรัม







มามัลละปุรัม อยู่ห่างจากเจนไนมาทางใต้ราว 60 กิโลเมตร
เป็นอดีตเมืองท่าของอาณาจักรปัลลวะ

แท็กซี่ที่เหมามา ไปส่งเราถึงโรงแรมที่พัก ที่ใหญ่เสิร์ชหามาก่อนล่วงหน้า
Seabreeze  annex   ฟังชื่อออกจะโรแมนติก  คิดถึงสายลมอ่อนโยนริมทะเล..
แต่เอิ่มม.. อย่าเพิ่งฝันหวาน คิดว่าอะไรๆจะโรแมนติกเหมือนชื่อ

Seabreeze  ลักษณะเป็นบังกาโลกลางเก่ากลางใหม่ ขนาดย่อมๆ
คล้ายๆจะมีต้นมะพร้าวอยู่กลางลานหน้าระเบียงห้องพัก
มีคนดูแลเป็นชายหนุ่มอยู่คนเดียว
(มานึกย้อนดูทีหลัง  เราไม่เห็นแขกมาพักห้องอื่นๆเลย วันนั้นเราน่าจะเป็นลูกค้ารายเดียวกระมัง ?)

เราเลือกพักห้องรวม เสริมที่นอน  เป็นห้องพัดลม  ราคา 1000 รูปี
ผู้มีประสบการณ์บอกว่าเทียบราคาที่พักกับบ้านเราแล้วถือว่าแพงอยู่นะ
บ้านเรา โรงแรมหรือเกสท์เฮาส์ราคาระดับนี้ สะอาดและบริการดีกว่านี้มาก
ใหญ่บอกว่านักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทยพอใจที่พักในบ้านเรากันทั้งนั้น

ยังไม่ทันจะได้นอน  แม่จ้าว.. อากาศร้อนจนนอนไม่ไหว
ต้องลุกไปเรียกพนักงานหนุ่ม  ขอย้ายไปห้องแอร์ที่ราคา  1500 รูปี
และเพิ่งจะเข้าใจในนาทีนั้น ว่าการไฟฟ้าของประเทศที่ใหญ่โตและพลเมืองหนาแน่นขนาดนี้
ยากที่จะบริหารจัดการทรัพยากรให้ลงตัวและทั่วถึงได้
ไฟจึงติดๆดับๆทั้งคืน  น่าเห็นใจจริงๆ
แต่ตอนนั้นเห็นใจพวกเราเองมากกว่า
ห้องแอร์หรือไม่แอร์ก็แทบไม่ต่างกันเลย
ไม่ไข้ขึ้นในคืนนั้นก็บุญแล้ว

คืนแรกในอินเดียใต้จึงทุลักทุเลกันพอควร


เช้าวันรุ่งขึ้น  - 12 ตุลาคม 2555
หลังจากเดินสำรวจใกล้ๆแล้วพบว่ามีที่พัก ที่ดูดีกว่า สะอาดกว่า
มิหนำซ้ำราคายังถูกกว่าที่แรก (จากการต่อรอง) ได้คืนละ 1300 รูปี
ที่สำคัญต้องถามย้ำก่อนว่า  มี generator (เครื่องปั่นไฟ)ไหม?  ถ้าไม่มีก็จบกัน

เช็คอินเข้าที่พักใหม่ ชื่อ  Sri  Murugan  ห้องพักใหม่กว้างขวาง สบายกว่าเดิมเยอะ



ได้ที่พักใหม่แล้ว   กินอาหารเช้าแล้วก็เป็นรายการเดิน
เดินไปตามถนน  East Raja Street  เพื่อจะไปโบราณสถานสองแห่ง
อากาศเย็นสบายเพราะยังเช้าอยู่ ผู้คนยังบางตา

ถนนเส้นนี้ สองข้างทางเป็นร้านรวงขายงานฝีมือ งานผ้า ของที่ระลึก ภาพเขียน
ที่โดดเด่นคือร้านขายงานแกะสลักหิน ส่วนใหญ่แกะเป็นรูปเทพเจ้าต่างๆ  ฝีมืองดงาม
ใครหนอจะแบกงานพวกนี้ไป  นึกภาพการขนส่งแทบไม่ออกเลย














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น