วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

เลี้ยงไก่ไว้เป็นครู




 


เราเลี้ยงไก่มากมาย  แต่ไม่เคยเอาไก่มากินเลย
เคยกินไข่บ้าง  นาน ๆ ครั้ง
ไม่เคยจับมาฆ่า หรือให้ใครฆ่าให้
ทำไม่ได้  และไม่เคยคิดจะทำ

ฟังดูเหมือนดัดจริต
แต่จริตเรามันเป็นอย่างนี้จริง ๆ

แล้วจะเลี้ยงมันไปทำไม ?
บางทีเราก็เคยถามตัวเองอย่างนี้เหมือนกัน
ไหนจะเปลืองเงินซื้อปลายข้าว  เดี๋ยวถัง  เดี๋ยวถัง
ไหนจะเหม็นขี้ ที่พวกมันขี้ไปรอบบ้าน
ไหนจะวุ่นวายกับพวกมัน เรื่องนั้น เรื่องนี้

เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน....  พ่อบ้านเคยบอก
แต่ตอนนี้เขาคงท้อเหมือนกัน  เพราะเพื่อนเล่นขยายพันธุ์กันรวดเร็ว
จนมีเพื่อนเป็นร้อย  และชักจะไม่ไหว

เราเคยขายพวกมันไปครั้งหนึ่ง
มีคนมาติดต่อขอซื้อผ่านคนงานของเรา
ขบวนการจับไก่เริ่มขึ้นในตอนกลางคืน

บรรยากาศการจับไก่นั้นแย่ที่สุด
มีทั้งความโกลาหลวุ่นวาย  ทั้งจากคนและจากไก่
ความตระหนกตกใจที่เรียกว่า  ไก่ตื่น
และความกระอักกระอ่วนใจ
ความรู้สึกผิดของเราเองที่แฝงอยู่ลึก ๆ

เด็กสองคนในบ้านไม่ยอมหลับยอมนอน
กระวนกระวายไปกับการจับไก่ที่อึกทึกอยู่นอกบ้าน
ตัดพ้อต่อว่า ที่พ่อแม่ทำร้ายไก่

ขบวนการจับไก่ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะสงบ

พ่อบ้านถือไฟฉายเดินกลับเข้ามา
หลังจากคนจับไก่ 2-3 คนจากไปแล้ว
ทุลักทุเล...  และรู้ว่าไม่ใช่หนทางของเรา

เราขายไก่  10  ตัวได้เงินราว 400 บาท
แต่พ่อบ้านกลับแบ่งให้คนงานที่มาช่วยจับไปเสียครึ่งหนึ่ง

นั่นเป็นครั้งแรกที่เรา "ค้าขาย" พวกมัน
หลังจากนั้นพ่อบ้านก็ใช้วิธีแจกให้คนงานเอาไปเลี้ยง
ทีละครอก สองครอก
คนงานดีใจ  เท่ากับเราลงทุนให้พวกเขาได้ค้าขายต่อไป

ใครอยากได้ก็ให้มาจับเอาเอง
แต่เราขอสงวนตัวพ่อพันธุ์  แม่พันธุ์ เอาไว้
โดยเฉพาะสมาชิกรุ่นแรก ๆ ของบ้านไร่
ที่ถือว่ามีความผูกพันกันมายาวนาน

ประชากรไก่ของเราจึงลดลงบ้าง แต่ก็ยังแพร่พันธุ์กันต่อไปไม่หยุดหย่อน
จึงเกิดยุทธการชิงไข่กันขึ้น
ระหว่างพ่อบ้านกับแม่ไก่
พ่อบ้านจะรีบไปชิงไข่ ก่อนที่แม่ไก่จะเข้าไปฟัก ซึ่งบางครั้งก็ไม่ทัน
เพราะพวกหล่อนไข่พร้อม ๆ กันหลายแม่ และหลายรัง

บางครั้งพ่อบ้านจึงทำ "ไข่ปลอม" ไปวางในรัง เพื่อหลอกแม่ไก่
หลังจากขโมยไข่จริงของมันออกไปแล้ว

ไข่ปลอมทำจากเศษกระดาษเก่า  ขยำจนอ่อนตัว
ปั้นเป็นลูกรี ๆ ให้เหมือนไข่
สมองไก่คงแยกไม่ออกระหว่างไข่จริง ไข่ปลอม
ทำให้ยุทธการของพ่อบ้านใช้ได้ผลอยู่เหมือนกัน

วันหนึ่งฉันค้นเจอบทกลอนของท่านพุทธทาสบทหนึ่ง
ชื่อ "อาจารย์ไก่"
ทำให้ได้ข้อสรุปของตัวเองขึ้นมาโดยพลัน
ว่าเราเลี้ยงไก่ไว้ทำไม


"ถ้าคนเราเปรียบกับไก่ดูให้ดี      
มันไม่มีนอนไม่หลับ ไม่ปวดหัว
ไม่มีโรคประสาทประจำตัว        
โรคจิตไม่มากลั้วกับไก่น้อย

คนในโลกกินยาเป็นตันตัน          
พวกไก่มันไม่ต้องกินสักเท่าก้อย
หลับสนิทจิตสบายร้อยทั้งร้อย    
รู้สึกน้อยแห่งน้ำใจอายไก่เวย

ได้เป็นคนหรือจึงได้นอนไม่หลับ
ควรจะนับว่าเป็นบาปหรือบุญเหวย
มีธรรมะกันเสียนะอย่าละเลย
อยู่เสบยไม่ละอายแก่ไก่มัน..."

พุทธทาสภิกขุ


นั่นซีนะ ....
ไก่ไม่เห็นต้องเสียเวลาดูทีวีอย่างเรา
ตกค่ำมาก็หาที่หลับที่นอนของมันตามประสา
ไม่เคยเที่ยวกลางคืนให้เดือดร้อนวุ่นวาย
เช้าตรู่ก็ตื่นขึ้นมาขัน ทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์

แต่มนุษย์นี่สิ  ยุ่งยากซับซ้อน
และก่อปัญหาจนโลกยุ่งเหยิงไปหมด
ขอบคุณอาจารย์ไก่






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น