วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ป้าอีเลนและลุงซิดนีย์








ปลายปี 2539  ฝรั่งอาวุโสสองคนผัวเมียนามอีเลน และซิดนีย์
นัดหมายมาหาเราที่บ้าน

อีเลน เป็นนักประวัติศาสตร์กระดาษชาวอเมริกัน เชื้อสายยิว
ขณะนั้นเธออายุราว 60 ปีเศษ
ในขณะที่ซิดนีย์ เป็นอดีตนายแพทย์  แก่กว่าอีเลนราว 10 ปี

ทั้งสองเป็นคู่สามีภรรยาที่น่ารัก สมกับคำกล่าวว่า ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร
ซิดนีย์เป็นสามีที่ให้เกียรติและยกย่องภรรยามาก
ขณะที่อีเลนเก็บข้อมูลต่าง ๆ  ซิดนีย์จะทำหน้าที่ช่างภาพ
ทั้งคู่เดินทางไปเก็บเรื่องราวการทำกระดาษในที่ต่าง ๆ มาทั่วโลก
และเธอเดินทางมาหาเราก็เพราะเราเป็นคนทำกระดาษนั่นเอง

ทั้งคู่เป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ทีชื่อ แคริเอจเฮ้าส์  ในนิวยอร์ก
เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับงานกระดาษ ที่ได้จากการเดินทางไปทั่วโลก
เปิดสอนการทำกระดาษและขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

ทุกครั้งที่เดินทาง เธอจะเขียนหนังสือและพิมพ์หนังสือ
เล่าเรื่องราวที่เธอได้ไปสัมผัสพบเห็น

นอกจากนั้นเธอยังได้รับเชิญไปบรรยายตามสถาบันต่าง ๆ
และยังจัดทัวร์ พาศิลปินนานาชาติ ที่สนใจงานกระดาษมาทัวร์แถบเอเชีย
โดยประเทศที่เป็นเป้าหมายหลักในการมาศึกษาดูงานของเธอในทุกครั้ง
ก็คือประเทศพม่า

อีเลนมีความผูกพันกับประเทศพม่าเป็นพิเศษ
เธอเคยรับอุปการะเด็กพม่าหลายคน และพาบางคนไปอยู่ที่อเมริกาด้วย

ก่อนที่จะมาพบเรา อีเลนพาลูกทัวร์ไปเยือนพม่ามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ที่พม่า เธอพาลูกทัวร์ไปหมู่บ้านทำกระดาษใกล้เมืองมันดะเลย์
ที่เธอเขียนเล่าไว้ในหนังสือว่าเป็นกระดาษที่ทำเพื่อใช้รองแผ่นทองคำเปลว
คนพม่าทำบุญ ไหว้พระกันมากจนเป็นลักษณะเด่นประจำชาติ
วัฒนธรรมการทำกระดาษเพื่อใช้ในพิธีกรรมเหล่านี้ จึงยังคงอยู่ตลอดมา
แม้การเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านจะยากลำบาก บางช่วงต้องนั่งเกวียน
แต่เธอก็พากันดั้นด้นไปจนถึง

จากการพบกันในวันนั้น อีเลนมีข้อเสนอว่าจะขอพาทัวร์ประจำปีของเธอ
มาปิดท้ายที่โรงงานเล็ก ๆ ของเรา
โดยปฏิทินทัวร์ของเธอมักจะจัดช่วงปลายปี
โดยตั้งใจให้ตรงกับเทศกาลลอยกระทง - ที่พวกเขาบอกว่าประทับใจ

ปีแรกที่เรารับลูกทัวร์ของอีเลน คือปี พศ.2540
มีสมาชิก (ไม่รวมอีเลนและซิดนีย์) 7 คน
มาจากออสเตรีย  เดนมาร์ก  สวิตเซอร์แลนด์  โคลอมเบีย และอเมริกา
มีผู้ชายเพียงคนเดียวจากอเมริกา

พวกเขาสนุกที่จะเรียนรู้  บางคนอายุเกือบ 80 แล้ว
แต่เข้มแข็งและองอาจ  กระตือรือร้นอย่างน่านับถือ

ช่วงเวลา 2-3 วันที่อยู่กับเรา
สมาชิกจะได้รับความรู้ในเรื่องการทำกระดาษไทย
ตั้งแต่วัตถุดิบ การเตรียม  ได้รู้จักอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ
และได้ลงมือปฏิบัติจริง  โดยมีคนงานของเราคอยเป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวกให้

ในช่วงปีแรก ๆ ของการต้อนรับทัวร์ศิลปิน
เราได้รับความช่วยเหลือจากพี่พร - อาจารย์พรพิมล ตรีโชติ
ผู้เชี่ยวชาญประเทศพม่า จากสถาบันเอเชียศึกษา ช่วยมาเป็นผู้ประสานงานให้

แรงจูงใจอย่างหนึ่งที่พี่พรบอกว่าอยากมาช่วย
คือความผูกพันที่ป้าอีเลนมีต่อชาวพม่า  เช่นเดียวกับที่พี่พรมี
ช่างเป็นความบังเอิญที่ลงตัวเสียจริง ๆ

ปีถัด ๆ มา เรามีศิลปินมาร่วมอีกหลายประเทศ
ทั้งจากสเปน  ออสเตรเลีย  เยอรมัน  แคนาดา  อังกฤษ  ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น

ป้าอีเลนและลุงซิดนีย์นำลูกทัวร์มาหาเราอยู่ราว 2-3 ปี
เธอก็โอนภาระนี้ให้ ดอนนา - ลูกสาวคนเดียวของเธอเป็นผู้สืบทอด

ดอนนาในวัย 40 เศษ  เรียนจบทางด้านศิลปะ
เธอมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว  ดูแลแคริเอจเฮาส์
และเป็นหัวหน้าทีม นำลูกทัวร์มาแทนแม่ครั้งแรกในช่วงเทศกาลลอยกระทง ปี 2000

ดอนนาเป็นผู้หญิงร่างเล็ก ผอมบาง บุคลิกของเธอเป็นคนเรียบง่าย
ดูเป็นคนจริงจังและกังวลอยู่นิด ๆ
เพราะต้องรับผิดชอบงานทั้งหมดของครอบครัว

ดอนนารับช่วงต่อจากแม่ได้ราว 3 ปี ก็เกิดเหตุการณ์  11 กันยายน 2002
ถล่มตึกเวิลด์เทรด  เหตุการณ์ทางการเมืองที่สะเทือนขวัญคนทั้งโลก
และเป็นสาเหตุให้โครงการทัวร์ของดอนนาต้องยุติลง
เพราะความหวั่นไหวของสมาชิก  ทำให้การเดินทางต่าง ๆ ต้องชะงักงัน
ทริปสุดท้ายของดอนนาคือปลายปี 2003  มีสมาชิกเหลือเพียง 3 คน

ส่วนอีเลนและซิดนีย์ แม้จะมอบกิจการให้ลูกสาวดำเนินการต่อ
ก็ใช่ว่าพวกเขาจะหยุดอยู่บ้านพักผ่อน เช่นคนแก่ทั่ว ๆ ไป

ปีแรกที่ดอนนามารับงานแทน
อีเลนและซิดนีย์เดินทางไปประเทศจีนตามเส้นทางสายไหม
อู่อารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของโลก
สืบสาวเรื่องราวของกระดาษต่อไปอย่างไม่ลดละ

หลังการเดินทางครั้งนั้น พวกเขากลับมาเยี่ยมเราครั้งหนึ่งและเล่าให้ฟังว่า
หมู่บ้านบางแห่งที่พวกเขาไป ชาวบ้านไม่เคยเห็นชาวต่างชาติมาก่อนเลยในชีวิต

ความลำบากทางกายไม่เคยเป็นอุปสรรคสำหรับพวกเขา
เราไม่เคยได้ยินคำบ่น  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน การอยู่ หรือความไม่สะดวกสบายต่าง ๆ
สิ่งเหล่านั้นกลายเป็นเรื่องเล็กมาก
เมื่อเทียบกับความมุ่งมั่นในชีวิตของพวกเขา


ทุกวันนี้ อีเลนและซิดนีย์ยังคงเดินทางต่อไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมพลัง
ทั้งที่มีคนเล่าให้เราฟังว่า
ดวงตาของซิดนีย์มองเห็นแค่ระยะไม่เกิน 1 ฟุตแล้่ว

ขอบคุณป้าอีเลน และลุงซิดนีย์
ที่เป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่
เวลาใดที่ทดท้อต่อชีวิต  เวลาใดที่จิตตก  งี่เง่า  ท้อถอย ไม่มีกำลังใจ
ลุงและป้าเหมือนเดินออกมาชี้หน้า ย้ำเตือนว่าให้ดูฉันเป็นตัวอย่าง
ชีวิตฉันมีค่าเสมอ

และฉันไม่เคยยอมแพ้
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น