วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

สาวน้อย







ปีนั้น..
อากาศปลายเดือนกันยายนแปรปรวน
เพราะเป็นช่วงปลายฝน ต้นหนาว ฟ้ามักร้องคำรามทั้งที่ไม่มีฝนตก
หรือหากตกก็ตกแบบเกรี้ยวกราด กรรโชก
เป็นเพราะมีประจุไฟฟ้าอยู่ในชั้นบรรยากาศ
ฤดูหนาวกำลังจะมา....

ต้นปีบออกดอก..
ผลิบาน หวานหอมให้เชยชม
บางที กว่าจะรู้ว่าปีบผลิบานก็ต่อเมื่อเห็นดอกร่วงพรู
ขาวโพลนอยู่รอบโคนต้น จนต้องแหงนหน้าขึ้นมองหา
เพราะต้นสูงนัก

เดิมทีเราปลูกปีบแค่สองต้น
แต่พอมันโต รากหรือไหลก็จะแผ่ขยายออกไปกว้างไกล
ก่อเกิดปีบต้นเล็กต้นน้อยตามมานับไม่ถ้วน
จนบางทีต้องฟันทิ้ง เพราะมากมายเกินพอดี

บางต้นขึ้นเบียดไม้ต้นอื่น
เผลอหน่อยเดียวก็พากันโตพรวด ๆ ยึดครองพื้นที่
กดข่มเจ้าของเดิมจนฝ่อไปเลยก็มี

วันหนึ่ง พ่อบ้านเปรยขึ้นมาว่าอยากเลี้ยงเป็ด
เขาติดต่อซื้อเป็ดจากญาติห่าง ๆ คนหนึ่งไว้แล้ว

ถัดมาอีก 5-6 วัน ก็มีคนเอาเป็ด 6 ตัวมาให้ถึงบ้าน
เป็นเป็ดเทศพันธุ์ผสม
มีคนบอกว่าพันธุ์นี้แหละเอาไปทำเป็ดพะโล้อร่อยนัก

พ่อบ้านไม่ได้คิดจะเลี้ยงเป็ดทำเป็ดพะโล้
เขาหวังเพียงว่าพวกเป็ดจะช่วยกำจัดหอยทาก
ที่เกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา
กับทั้งจะช่วยดูแลสอดส่อง ป้องกันบรรดางูทั้งหลายให้เราด้วย
บ้านเราเป็นป่ารกเรื้อ งูจึงชุกชุม

เป็ดเทศทั้ง 6 ตัวของเรา ไปไหนก็ไปด้วยกัน
เดินเรียงแถวตามก้นกันอย่างเป็นระเบียบ
ท่วงท่าอุ้ยอ้ายส่ายสะโพกดูน่ารัก

เจ้าตัวที่เป็นจ่าฝูง ขนขาวดำ ตัวอ้วนใหญ่กว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด

อีกตัว ถ้าเทียบกับคน หล่อนคงเป็นหญิงสาว งามเด่นสะดุดตาที่สุดในฝูง
เราเรียกเธอว่า "สาวน้อย"

สาวน้อยคงจะอายุน้อยกว่าตัวอื่น
ในขณะที่ตัวอื่น ๆ ดูกรำโลก แก่พรรษากว่ามากนัก

สาวน้อยมีขนขาวสะอาด ตัดกับขนเขียวเข้มจนขึ้นดำ
หรือว่าดำจนขึ้นเขียวก็ไม่รู้
ในขณะที่ปีกขนของตัวอื่นดูสกปรก มอมแมม

สาวน้อยจึงมีสง่าราศีประจำกายโดดเด่นกว่าพรรคพวกอย่างน่าแปลกใจ

ความเด่นอีกประการของสาวน้อยก็คือ
เธอยังไม่ทันถูกตัดปีกเหมือนรุ่นพี่ทั้ง 5 ตัว
จะเป็นเพราะเจ้าของเดิมลืมหรืออย่างไรก็ไม่รู้

คนเลี้ยงตัดหรือขลิบปลายปีกคงเพื่อป้องกันมันบินหนี

สาวน้อยไม่ได้ถูกขลิบปีกเหมือนตัวอื่น
เธอจึงสามารถบินไปโน่นมานี่ ในระดับสูงจากพื้นสัก 2-3 เมตร
และไปได้ไกลเป็นระยะทางราว 10 เมตร ในแต่ละเที่ยวบิน
ให้บรรดาเป็ดอาวุโสในกลุ่ม ได้อิจฉาตาร้อนกันอยู่ทุกวัน

เธอบินขึ้นไปเกาะขอบอ่างบัวหลวงใบใหญ่
ที่เป็นอ่างมังกร สูงราว 60 เซนติเมตร
แล้วก็ลงดำผลุดดำว่ายอยู่ในอ่างบัว
ไม่สนใจหรอกว่าในอ่างนั้นจะมีต้นอะไรอยู่
จนกระทั่งบรรดาบัวของเราวอดวายหมดทุกอ่าง

จะว่าไปเป็ดฝูงนี้ก็ไม่ได้สร้างความยุ่งยากอะไรให้เรานัก
ข้าวก็ไม่เปลือง  ดูท่ามันจะเพลิดเพลินกับการหาหอย หาแมลงกินมากกว่า

แต่ปัญหาอยู่ตรงที่มันชอบอยู่ใกล้คน

ตั้งแต่เริ่มเลี้ยง  พวกมันจะมาขี้กองไว้รอบบ้าน
แทนที่จะขี้ตามดินตามหญ้า
กลับมาขี้กองไว้หน้าประตู ทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน
กลิ่นอันไม่พึงปรารถนาจึุงอบอวลอยู่รอบบ้าน
ตามล้างตามเช็ดกันไม่หวัดไม่ไหว





เมื่อก่อนบ้า่นเราชั้นล่างยังไม่ได้ติดมุ้งลวด
เพราะเสียดายลม ต้องการให้ลมโกรกอย่างเต็มที่
แต่ตอนหลังสู้ยุงไม่ไหว จึงต้องติดมุ้งลวด ยอมเสียลมไปเกินครึ่ง

เที่ยงวันนั้น พวกเราชุมนุมกันอยู่ในครัวหลังบ้าน
สักพักก็ได้ยินเสียงกุกกัก ๆ ดังมาจากหน้าบ้าน  ฉันจึงลุกไปดู

แล้วก็ได้เห็นเป็ดทั้ง 6 ตัว
เข้ามานั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ในห้องรับแขก

นั่งสงบเสงี่ยมเรียบร้อยกันจริง ๆ  เรียงแถวหน้ากระดาน
นิ่งเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อน  แม้เราจะเดินมายืนมองอยู่ตรงหน้า
พวกเธอก็มองหน้าเราเฉย
ไม่ยอมลุกหนี

ในที่สุดฉันต้องยอมเสียมารยาท เป็นฝ่ายไล่แขก
"ชิ้ว ๆ... มากไปแล้วนะพวกเธอ"

เท่านั้นแหละ พวกเธอพากันลุกขึ้น
พร้อมใจกันส่งเสียง  "ก้าบ ๆ ๆ"  ดังลั่น แบบตื่นตกใจขึ้นมาทันใดเหมือนคนบ้าจี้
แล้วพากันวิ่งหนีอลหม่าน

ถ้าวิ่งหนีเฉย ๆ จะไม่ว่ากันเลย..
แต่นี่พากันขี้แตก  แพรด ๆ ๆ   ฝากไว้ที่พื้นห้องรับแขกตัวละกองสองกอง
โอย..จะเป็นลม

พ่อบ้านเห็นท่าไม่ได้การ
ด้วยมองเห็นปัญหาตามมาอีกหลายอย่าง
ทั้งกลัวยายลื่นล้มจากการล้างขี้เป็ดครั้งแล้วครั้งเล่า วัีนละหลายรอบ

เขาตัดสินใจเผด็จศึกอย่างรวดเร็ว
โดยยกเป็ดทั้งหมดให้คนงานไปอีกนั่นแหละ
ไม่ได้ขายเขยอะไรเลย

คนงานเข้ามาจับเป็ดตอนหัวค่ำ โพล้เพล้อีกเช่นเคย
พวกมันคงรู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัย
มันพากันวิ่งหนีสุดชีวิต  ดูน่าเวทนาจริง ๆ

เย็นนั้นพวกเขาต้องมาจับมันถึงสองรอบ จึงได้ไปจนครบ

ก่อนนอนคืนนั้นยายสวดมนตร์แผ่เมตตาให้พวกเป็ดไปหลายรอบ

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
ฉันตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงตื่นตกใจของยายที่หลังบ้าน

ยายเล่าว่าเมื่อยายเปิดหน้าต่างห้องครัวออกไป
ก็ต้องตกตะลึงเมื่อมองเห็น  สาวน้อย
เป็ดตัวที่ฉลาดที่สุดของเรา ยืนสงบเสงี่ยมอยู่ตรงลานซีเมนต์หลังบ้าน...

เธอยืนอยู่ตัวเดียว..

ยายบอกว่าใจยายอ่อนยวบ

เราพากันแปลกใจว่าสาวน้อยกลับมาบ้านได้อย่างไร
ระยะทางจากบ้านคนงานที่มาจับพวกมันเมื่อคืนนี้
แม้จะห่างจากบ้านเราไม่มากนัก  แต่ก็ไม่ใกล้
และหนทางก็ยังคดเคี้ยวเลี้ยวลด
ต้องผ่านป่าหญ้าและลำคลอง  ขนาดคนเดินก็ยังหอบแฮ่ก

เธอจะต้องเป็นเป็ดที่ฉลาดเฉลียวอย่างยิ่ง
และเธอคิดยังไง จึงดั้นด้นกลับมา
เธอกลับมาในลักษณะการหนีภัย  หนีร้อนมาพึงเย็น
กลับมาบ้าน..

ยิ่งคิด ใจฉันก็ยิ่งอ่อนยวบไปตามยาย

แต่พ่อบ้านใจแข็ง..ใจแข็งอยู่คนเดียว
เขายืนยันความตั้งใจเดิม ที่ไม่มีใครกล้าทัดทาน
สาวน้อยจึงถูกจับไปอีกรอบ

ที่นี่ไม่เย็นพอแล้วหรือ ...
ก้อนแข็ง ๆจุกอยู่ตรงยอดอก
.......

บางที..เขาอาจจะเป็นฝ่ายถูก
เราสิผิด..ที่ใจอ่อนจนเกินไป..









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น