วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2556

ลุงเจี๊ยบ







เจฟ เป็นฝรั่งสัญชาติฮอลแลนด์วัย 50 กว่า
เขาตามปีเตอร์ เพื่อนร่วมชาติของเขา และเป็นลูกค้าคนสำคัญของเรามา
เรารู้จากปีเตอร์ในเบื้องแรกว่าเจฟเป็นศิลปิน

บุคลิกของเจฟนั้นจดจำง่าย
เขาเป็นคนร่าเริง  เป็นมิตร  หัวเราะเสียงดัง และอาภัพเส้นผม

ปีเตอร์อายุอ่อนกว่าเจฟหลายปี
หน้าตาหล่อเหลาระดับเดียวกับดาราฮอลลีวูด
เป็นเจ้าของธุรกิจขายอุปกรณ์สำหรับงานศิลปะทุกชนิด
ทั้งกระดาษ สี พู่กัน ฯลฯ

เขามีร้านในยุโรปหลายแห่ง
ชื่อร้านคือชื่อเต็มของเขา  ปีเตอร์ แวน กิงเกล
ปีเตอร์สั่งซื้อกระดาษของเราไปขายที่ร้านของเขา
เขาเป็นคนมีเพื่อนมาก
กลุ่มที่มาด้วยกัน นอกจากเจฟ
ยังมีเพื่อนชาวฮอลแลนด์ด้วยกันอีกสองสามคน
และหนุ่มไทยปักษ์ใต้ที่เป็นเพื่อนสนิทของปีเตอร์

ฝรั่งกลุ่มนี้ท่องเที่ยวกันไปทั่วโลก
ใช้ชีวิตอิสระ  เป็นคนมีความรู้
เจฟจบปริญญาโท เคยเป็นอาจารย์สอนศิลปะ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์
เคยใช้ชีวิตแบบคนร่ำรวย  แต่ในที่สุดก็เบื่อ
จึงตระเวนไปเที่ยวที่โน่นที่นี่กับกลุ่มเพื่อน

เขาเคยมาเมืองไทยหลายครั้ง
บางครั้งมาเช่าบ้านอยู่กันนานนับเดือนที่กรุงเทพฯ
ซึ่งคงจะประหยัดกว่าอยู่โรงแรม
จึงพอรู้ภาษาไทยบ้าง - นิหน่อย
เขาคงจะชอบคนไทย ชอบเมืองไทยพอสมควร
จึงมาหลายครั้ง เกือบจะทุกปี

ไป ๆ มา ๆ เจฟก็สนิทกับเรามากกว่าปีเตอร์เสียอีก
เขาเคยมาอยู่ทำงานที่บ้านเราหลายครั้ง บางครั้งนานนับสิบวัน
เจฟสนุกกับการเล่นกับกระดาษ
งานศิลปะกระดาษของเจฟสะท้อนตัวตนของเขาที่เป็นคนรักสนุก มีอารมณ์ขัน

เขาจะขลุกอยู่ที่โรงทำกระดาษทั้งวัน
ใช้จินตนาการสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ลงบนเยื่อกระดาษ
หยิบสิ่งของรอบตัวที่คนอื่นโยนทิ้ง หรือมองข้าม
มาใช้ผสมผสานเป็นงานศิลปะได้อย่างน่าทึ่ง

"ฝรั่งติงต๊อง"  เจฟพูดถึงตัวเองเต็มปากเต็มคำ
"ไออยู่ที่ไหน มักจะถูกคนไทยเรียกว่าฝรั่งติงต๊อง"
"ยูรู้ความหมายของมันไหม" เราถาม
"รู้ซี่"
"โกรธมั้ย ?"
"ไม่หรอก เพราะไอก็ติงต๊องจริง ๆ นั่นแหละ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า.."

วันหนึ่ง ฝรั่งติงต๊องคนนี้หิ้วถังพลาสติกสีดำ เดินท่อม ๆ หายเข้าไปในป่ารก
เพื่อหาวัตถุดิบแปลก ๆ มาทำกระดาษเล่น  หมาข้างบ้านเห่ากันเกรียว
พักใหญ่ เจฟก็หิ้วถังดำเดินออกมาจากกอหญ้ารก
ไม่มีใครรู้ว่าเขาเข้าไปเอาอะไร  คนงานหัวเราะกันคิกคัก

กระดาษแผ่นนี้เมื่อแห้งแล้วก็ดูสวยดี
เป็นกระดาษโทนสีน้ำตาลเหมือนสีกาแฟ  มีเศษผงประปราย คล้ายขี้เลื่อย
เป็นกระดาษแผ่นเดียวในโลก  เพราะทำจากขี้  - ขี้วัว - bullshit paper

คนงานเล่าว่าตอนที่เจฟเทขี้วัวจากถังลงในตะแกรงกระดาษ
แมงกุดจี่ในขี้วัวพากันวิ่งพล่านอย่างตื่นตระหนก
ในขณะที่เจฟส่งเสียงเฮฮา สนุกสนาน กระโดดโลดเต้นสะใจอยู่คนเดียว
มีเสียงคิกคักจากคนงานเป็นลูกคู่อยู่รอบ ๆ

"ผลมันจะเป็นยังไงก็ช่าง  สิ่งสำคัญคือเราสนุกตอนที่ทำ"

นี่ดูจะเป็นปรัชญาอันคมคาย จากคนที่บอกว่าตัวเองติงต๊อง

ระหว่างทำงาน เขาร่าเริงอารมณ์ดี  ผิวปาก ร้องเพลง
พูดจาเย้าแหย่คนงานอย่างสนุกสนาน คนงานพลอยมีความสุขไปด้วย

นอกเหนือเวลางานเจฟชอบไปนวด
เขาติดใจและชื่นชอบการนวดแผนไทยมาก
เขาชอบออกไปเดินเที่ยวเล่นในตลาด ดูบ้านดูเมือง
จนแม่ค้าหลายคนจำหน้าได้  คนไทยมักเอื้อเอ็นดูฝรั่ง

"คนไทยสนใจฝรั่ง"  ฉันนึกถึงคำพูดของคุณอเลค  สามีของพี่นิด พี่สาวที่น่ารักคนหนึ่ง
คุณอเลคเป็นคนอังกฤษ อยู่เมืองไทยมานานหลายสิบปี
รู้ภาษาไทยพอสื่อสารได้ แต่ไม่เก่ง
สาเหตุที่ไม่เก่งก็เพราะพี่นิดเก่งภาษาอังกฤษ
คุณอเลคเลยไม่ค่อยมีโอกาสได้ฝึกฝนภาษาไทยเหมือนฝรั่งคนอื่น ๆ ที่มีเมียเป็นคนไทย

"วันหนึ่งผมขึ้นรถเมล์  เชื่อมั้ยคน(ไทย)หันมามองผมทั้งคัน
ผมนั่ง ๆ ไปสักพัก ก็มีฝรั่งอีกคนหนึ่งขึ้นมา คนทั้งรถก็หันไปมองหมอนั่นอีก
ทำเอาหมอยืนจ๋อง ตัวลีบ แทบจะมุดลงไปใต้เบาะ
พอชักจะชิน หมอนั่นก็ค่อย ๆ กวาดสายตามองสำรวจคนในรถ
ปรากฏว่าทุกคนยังคงมองหมออยู่ - รวมทั้งผมด้วย  ฮ่า ฮ่า ฮ่า..."

ทุกคนที่ฟังต่างหัวเราะไปกับคุณอเลค
ที่เล่าด้วยความภูมิใจว่าตัวเองได้กลายเป็นคนไทยไปเรียบร้อยแล้ว  ฮ่า ฮ่า ฮ่า

กลับมาที่เรื่องของเจฟ
ความที่เขาเป็นคนมือไม้อ่อน ไหว้ดะ
หลายครั้งที่เจฟได้ของกินกลับมาโดยไม่ได้ซื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้

บางครั้งเขาซื้อของแปลก ๆ (สำหรับเขา) ติดไม้ติดมือมาด้วย
อาทิเขียดตัวเล็ก ๆ ย่างจนแห้ง เสียบไม้เป็นแผง
อาหารพิเศษของคนเมืองเหนือ
เอามาทอดกรอบกินกับน้ำพริกตาแดง หรือจิ้มน้ำปลากิน อร่อยมาก
เจฟซื้อมาเป็นมัด  ไม่ได้เอามากิน แต่เอามาใส่ในงานกระดาษของเขา
ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่บรรลุเป้าหมาย เพราะมีตัวอะไรไม่รู้มาแอบกินเขียดย่าง
ในแผ่นกระดาษของเขาจนหมด ในระหว่างที่รอกระดาษแห้ง

เมื่อใกล้จะกลับ เจฟทำกระดาษให้เราแผ่นหนึ่งเป็นที่ระลึก
เขาใส่ก้อนหินขนาดเท่าลูกมะนาวเข้าไปในเยื่อด้วย
มีรอย stamp (เขาแอบเอากระดาษออกไปขอให้บุรุษไปรษณีย์ประทับตราให้)
พร้อมกับเขียนด้วยลายมือสไตล์ศิลปิน ด้วยดินสอ ความว่า
"Great time when I spend with your family"

เจฟเป็นขวัญใจคนงาน  คนงานของเราทั้งหมดเป็นคนเมือง ที่มักขี้อาย ไม่ค่อยกล้าพูด
บางคนในชีวิตนี้ไม่สามารถขยับลิ้น ขยับปากพูดภาษาสำเนียงอื่น
นอกเหนือจากคำเมืองของตัวเองได้เลย
ชื่อของเจฟจึงมีปัญหามากสำหรับบางคน

วันหนึ่งฉันจึงได้ยินคนงานคนหนึ่งเรียกเจฟว่า ลุงเจี๊ยบ
ศิลปินร่างใหญ่อารมณ์ดีของเรา กลายร่างเป็นตุ๊กตาตัวเล็กน่ารักจากชื่อใหม่
จากนั้นมาเขาก็กลายเป็นลุงเจี๊ยบของทุกคน
ลุงเจี๊ยบดูจะมีความสุขมากขึ้นที่ได้รับการยอมรับ

ใกล้วันกลับ เขาอยากแสดงความขอบคุณเรา
ด้วยการโชว์ฝีมือทำแกงเขียวหวานเลี้ยงพวกเราทั้งหมด

"ไอเคยทำกินบ่อย ๆ ที่ฮอลแลนด์ อร่อยมาก"
เขาแสดงความชื่นชมอาหารไทยชนิดนี้

เจฟไปจ่ายตลาดแต่เช้าคนเดียว ไม่ยอมให้ใครไปช่วย
หอบข้าวของพะรุงพะรังลงจากรถ
แกงเขียวหวานไก่หม้อเบ้อเริ่ม จากกะทิกล่องใหญ่หลายกล่อง
กินกับข้าวสวยและขนมจีน  เอร็ดอร่อย หมดหม้อไม่มีเหลือ
เป็นความภูมิใจของคนทำ และเป็นความทรงจำอันงดงามระหว่างมิตรภาพ

ใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง
ปีเตอร์ เจ้าของธุรกิจใหญ่ เพื่อนสนิทของเจฟตาย ราวเดือนพฤศจิกายน 2002
ด้วยอายุเพียง 48 ปี หลังจากที่เรารู้จักและค้าขายด้วยกันมากว่า 10 ปี

ธุรกิจหยุดชะงักแทบจับต้นชนปลายไม่ถูก เพราะปีเตอร์เป็นลูกค้ารายใหญ่
ในนาทีนั้น เจฟซึ่งเป็นศิลปิน ไม่ใช่พ่อค้า ไม่มีความชำนาญในเส้นทางค้าขาย
ใช้ชีวิตสนุกสนานแบบศิลปินมาโดยตลอด
กลับแอ่นอกเข้ามารับหน้าที่ค้าขายกับเราแทนปีเตอร์
เพียงเพราะอยากช่วยเพื่อน

เขาตระเวนไปตามร้านค้าหรือศิลปินที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าเราได้
ทั้งในฮอลแลนด์  สเปน  อิตาลี เพื่อหางานมาป้อนให้เราอย่างมานะพยายาม
ซึ่งก็ได้ผลบ้างไม่มากนัก
แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือความเป็น "เพื่อน"
ที่มีความหมายและหาซื้อไม่ได้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น