วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หลง






หมาน้อยพันธุ์ผสม อายุยังไม่ถึงขวบปี
โผล่หน้ามาที่บ้านในวันปีใหม่
จู่ ๆ ก็มาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้

เพื่อนสนิทที่เป็นคนรักหมา
และบังเอิญสัญจรมาเยี่ยมในวันนั้นพอดี บอกว่า
"ให้ชื่อไอ้ปีใหม่ไปเลย"

แต่เราอยากจะเรียกมันว่าไอ้หลงมากกว่า

มาจากไหนกันล่ะนี่  ไม่ได้เชื้อไม่ได้เชิญ
บ้านนี้ไม่ใช่คนรักหมาเสียด้วย

ความรู้สึกแรกจึงเป็นความกังวลใจ มากกว่าความยินดี
แม้เพื่อนจะอ้างคำโบราณบอกว่า  มีสัตว์สองเท้า สี่เท้าเข้าบ้านจะโชคดี
ฉันจึงบอกให้เธอเอาใส่รถกลับไปด้วย
เพื่อนก็ปฏิเสธ เพราะเธอก็อุ้มชิวาวา ติดรถมาด้วยตัวหนึ่งแล้ว

เจ้าปีใหม่  หมาหลงที่ยังไม่รู้สาเหตุแห่งการหลง
ทำตัวเป็นขาใหญ่ประจำบ้านตั้งแต่วันแรก (ทั้งที่ขาสั้นและเล็กนิดเดียว)
ด้วยการไล่กัดนางทอม  หมาใหญ่เจ้าถิ่น  -  แน่นอนต้องทำต่อหน้าเรา
เพราะต้องการอวดศักดาว่า  ..กูนี่แหละคือผู้ครอบครองนาย..

ผลของการหลงตนแบบโง่ ๆ ก็คือ
ถูกนางทอม หมาแม่ลูกอ่อน ขย้ำเกือบตาย
ถ้าเราไม่เข้าไปปรามนางทอมให้เลิกรังแกเด็ก  ป่านนี้จะเป็นยังไงไม่รู้

มันเป็นหมามีเจ้าของแน่ ๆ
เพราะมีผ้าสีส้มและเขียว ผูกคอไว้
กับทั้งนิสัยที่บ่งบอกว่ามีคนเคยเล่นกับมันมาก่อน

มันพลัดหลงกับเจ้าของ ?  หรือถูกทิ้งอย่างจงใจ ?

บ้านเราตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางป่า  มันจะพลัดหลงมาได้ยังไง..

ใจประหวัดไปถึงเรื่องที่มีคนเล่า ว่ามีคนหากินกับหมา
โดยทำทีอาสารับหมาไปเลี้ยงให้ จากคนที่เลี้ยงไม่ไหว
รับเงินรับทองเป็นค่าจ้างมาดิบดี  ก็เอามาปล่อยตามหน้าบ้านคนอื่น
บางทีรับมาหลายตัว หลายเจ้า
ปล่อยพรูออกมาจากถุงเป็นฝูง..

เอ่อ..ใจหมาจริง ๆ

อ้าว..ลืมไป ด่าอย่างนี้ก็กระเทือนหมาอยู่ดี - ต้องขอโทษหมาจริง ๆ นะ

ถึงจะไม่ใช่คนรักหมาแบบฮาร์ดคอร์  ไม่ชอบเล่นด้วย
ไม่เคยเรียก "น้องหมา"  และหมั่นไส้เวลาได้ยินใครเรียก
หรือเห็นใครให้หมาเลียหน้าเลียตา  อุ้มหมาไปซื้อกับข้าวหม้อเดียวกับเรา

แต่ก็ไม่ได้เกลียด..

ไม่เคยทำทารุณกรรมสัตว์
อาจยกตีนทำท่าเตะบ้างในบางครั้งที่มันแอบย่องเข้ามาหยอกกัดส้นเท้า
แล้วหงุดหงิด ไม่มีอารมณ์เล่นด้วย
รำคาญกับนิสัยเป็นเด็กไม่เลิกของหมาฝรั่ง

แต่ก็ยังให้ข้าวมันกิน

ไอ้หลงเข้าข่ายหมาเด็กขี้เล่นที่เรารำคาญเป๊ะ
มาวันแรกก็คาบรองเท้าหายไปหลายคู่ เพื่อเรียกร้องความสนใจ

กระเป๋าเก่า ๆ ห้อยอยู่ที่โรงรถ กี่ใบต่อกี่ใบ  กระโดดคาบลงมาฟัดเละ
หมอนเก่า ลากลงมาตะกาย นุ่นปลิวเกลื่อนบ้าน

โอ้..ถ้าเป็นเด็ก 5 ขวบ 10 ขวบ  คงเล่นกันสนุกสนานไปเลย
แต่คนแก่สองคน.. ความดันขึ้น

ความวิตกจริตเริ่มก่อตัวมากขึ้น
เมื่อไอ้หลงไล่เห่าคนที่ขี่รถผ่านหน้าบ้าน
จะประกาศศักดาอีกรอบว่า ..กูเป็นหมาบ้านนี้นะเฟ้ย..

กับทั้งนังทอมเพิ่งก่อวีรกรรมทำนองนี้มาหยก ๆ
(เรื่องนังทอม เป็นหนังเรื่องยาวอีกเรื่องหนึ่ง  ที่จะเล่าทีหลังหากมีโอกาส)

นังทอมไล่กัดคนที่เดินผ่านหน้าบ้าน
กัดจนเป็นแผลลึก
คนถูกกัดเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของของมัน สองพันบาท
เจรจากันอยู่หลายวัน

เรากลัวจะต้องจ่ายเงินแบบเจ้าของนังทอม
เลยต้องหาทางปลดปล่อยไอ้หลงโดยเร็ว

เด็กหนุ่มข้าง ๆ บ้าน ถูกเรียกมาไหว้วาน
เขารับอาสาขมีขมัน  มีถุงปุ๋ยมาด้วย
ใส่ถุงเพื่อไม่ให้มันจำทางได้

"ผมรู้ว่าจะเอามันไปไว้ตรงไหน"
เขาบรรยายความพร้อมของสถานที่แห่งนั้นจนเราอุ่นใจว่ามันจะอยู่รอด
ฉันจินตนาการตาม  สถานที่แห่งนั้นฉันก็รู้จัก เพราะเคยผ่าน
..ไปดีนะเอ็ง..  อย่าว่าใจจืดใจดำเลย
เราไม่พร้อมที่จะรับเลี้ยงใครแบบผูกมัดถาวร

หลังจากไอ้หลงไปแล้วสักสิบวัน
ฉันขับรถออกจากบ้านไปตามเส้นทางปกติ
ฉันเห็นไอ้หลง!

ไอ้หลงแน่ ๆ หน้าตาอย่างนี้ เชือกที่คอยังอยู่
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือไอ้หลงใส่เสื้อหมา  สวยงาม
ดูร่าเริง มีความสุขแบบหมาเด็กของมัน
เดินไปเดินมาตรวจตราหน้าร้าน

ตรงนั้นเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวริมทาง กลางทุ่ง
เลยบ้านเรามาแค่กิโลเมตรเดียว
หรือว่าเป็นบ้านเก่าของมัน
ที่ตรงนี้ก็ห่างไกลจากที่ที่พ่อหนุ่มนั่นบอกไว้ไม่ใช่น้อยเลย
หรือมันเดินดมกลิ่นกลับมาเองได้
หรือพ่อหนุ่มนั่นหลอกเรา

ต่อจิ๊กซอว์ไม่ถูกเลย..

เอาล่ะ ยังไงเราก็สบายใจ
ที่เห็นมันมีความสุข
ลุแก่โทษทอดทิ้งหมาไปได้..

แวบหนึ่ง..อดคิดไม่ได้ว่า 
บางทีชีวิตเราก็ไม่ต่างจากหมาหลง
บนโลกอันกว้างใหญ่   เรามีสิทธิ์หลงได้ตลอดเวลา

เธอก็หลง  ฉันก็หลง

ไม่ว่าจะเป็นหมาเล็กหรือหมาใหญ่
แม้จะบอกว่าฉันดีกว่า เพราะฉันเป็นคน  
ฉันดีกว่า  เพราะฉันมีบ้าน
แต่จริงหรือ ว่านี่คือบ้านของฉัน..

บ้านของเราแต่ละคน
ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่  มีหรือไม่มี

เราก็มีสิทธิ์หลงได้ตลอดเวลา..








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น