บ้านเราปลูกไผ่หลากหลายพันธุ์
ตั้งชื่อเองว่าสวนไผ่เพียงดิน
ตอนที่ปู่ยังอยู่ เมื่อเห็นลูกหัวแข็ง ดื้อด้าน ดันทุรังจะปลูกต้นไผ่ในบ้านให้ได้
ปู่รีบถีบจักรยานจากสวนปู่ เพื่อมาบอกเคล็ดลับบางประการ
เพราะรู้ว่าห้ามมันไม่ได้แล้ว
เคล็ดของปู่คือ ตอนที่ขุดหลุมเตรียมปลูกไผ่
ให้หาก้อนหินมาก้อนหนึ่ง ใส่ลงไปที่ก้นหลุม ก่อนจะเอาไผ่ลงตาม
แล้วอธิษฐานว่า..
ตราบใดที่หินก้อนนี้ยังไม่แตกสลายกลายเป็นดิน
ก็ขอให้ผู้ปลูกมีอายุยืนยาวดั่งต้นไผ่...
ดังนั้นใครอยากอายุยืนมากก็หาหินก้อนใหญ่หน่อยก็แล้วกัน
คนโบราณไม่ชอบให้ปลูกไผ่ในบ้านด้วยเหตุผลหลายประการ
เพราะไผ่เป็นไม้ใหญ่ กอใหญ่
ย่อมแผ่ขยายรากไปรบกวนบ้านช่อง
ลำที่สูงยาวก็อาจจะโค่นโน้มลงเกะกะระราน
ส่วนใบเหลืองที่ร่วงหล่นจนเกือบหมดต้นในช่วงฤดูแล้ง
ก็เป็นเชื้อไฟอย่างดี
อีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่อยากให้ปลูกก็คือ
ไผ่มีอายุขัย
เมื่อถึงเวลาหมดอายุขัย ก็จะออกดอกสะพรั่งต้น
จากนั้นไม่นาน ไผ่ก็จะตายยกกอ
น่าใจหายนะ หากไผ่ทั้งสวนของเราถึงอายุขัยพร้อมกัน
ชวนกันออกดอกสั่งลา
แล้วพากันแห้งเฉาไปทั้งสวน ทั้งบ้าน
แค่คิดก็ใจหายวาบ ๆ
แล้วคนก็จะเชื่อมโยงความตายนี้ไปถึงเจ้าของ
ตีความรหัสนัยแห่งธรรมชาติ ยึดโยงกับคนปลูก
อดคิดถึงวันเก่าๆนั้นขึ้นมาไม่ได้
ปู่กลัวลูกหัวดื้อมีอันเป็นไป จึงรีบถีบรถเข้ามาหา
ทั้งที่ตอนนั้นปู่ไม่ค่อยแข็งแรงแล้ว
หลายครั้งที่ปู่ขี่รถไป ล้มไป เพราะแข้งขาอ่อน ไม่มีเรี่ยวแรง
ผ่านมาแล้ว 20 ปี พร้อมกับการจากไปของปู่
ไผ่บางกอเคยออกดอก แต่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่
เจ้าของพยายามยื้อชีวิตไผ่กอนี้ด้วยเทคนิคบางอย่าง
คือตัดลำไผ่ลงให้หมด เหลือตอสูงจากพื้นไม่มาก
จากนั้นก็กระหน่ำให้ปุ๋ยยูเรีย
ไม่นานไผ่ก็แทงหน่อ แตกยอดขึ้นมาให้ชื่นใจ
วิธีนี้ยื้อชีวิตไผ่กอนี้มาได้อีก 10 ปีทีเดียว
แต่ในที่สุดเขาก็จากไปอยู่ดี เพราะหมดอายุขัย
เมื่อรู้ว่าจะต้องจากไปแน่ ๆ แล้ว
ก็ทิ้งดอกลงสู่ดิน
รอน้ำฝน น้ำฟ้ามาชุบชูชีวิตใหม่
ก่อเกิดไผ่ต้นน้อยมากมาย ภายใต้ต้นแม่
เป็นตัวตายตัวแทน
ที่ทำให้โลกนี้ยังคงมีต้นไผ่
ธรรมชาติวางแผนของเขามาดีแล้ว
มนุษย์ต่างหากที่ยังต้องเรียนรู้อีกยาวไกล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น